ทุกวันที่ 13 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันครบรอบการจากไปของราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” โดยปีนี้ (2566) ครบรอบการจากไป 31 ปี แม้ตัวจะลาลับแต่ชื่อเสียงและผลงานยังคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน
วันนี้ (13 มิ.ย.66) ทางครอบครัวและสามี พร้อมด้วยศิลปินนักร้อง และแฟนเพลงของพุ่มพวง จำนวนมาก ร่วมกันประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ถวายอาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 13 รูปพิธีทอดผ้าป่า ทอดผ้าบังสุกุล ที่วัดทับกระดาน ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
พร้อมมอบทุนการศึกษาให้นักเรียน จำนวน 311 ทุน เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้กับ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” รวมทั้งได้มีการจัดงานวันรำลึกราชินีนักร้องลูกทุ่ง ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี 9 วัน 9 คืน ระหว่าง วันที่ 10-18 มิถุนายน 2566
ขณะที่หน้าอัฐิของพุ่มพวงและหุ่นรูปปั้นภายในศาลาทุกจุดมีแฟนเพลงของพุ่มพวง ต่างหลังไหลกันนำดอกกุกราบสีแดง มากราบไหว้ขพร ขอโชคลาภ กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะหุ่นที่ 1 ที่ศาลาสระกลางน้ำ ซึ่งเป็นหุ่นแรกมีแฟนเพลงจำนวนมากมาขอพร ขอโชคลาภกันอย่างต่อเนื่อง จุดที่แฟนเพลงนิยมมาไหว้ คือจุดตั้งหุ่นที่ 1, 2, 4, 5
โดยปัจจุบัน ‘หุ่นพุ่มพวง’ มีทั้งหมด 13 จุดทั่ววัดทับกระดาน ปีนี้มีการตั้งหุ่นตัวที่ 13เป็นตัวสุดท้าย ที่น้องสาวและลูกสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้น้องสาวเคยบอกไว้ว่าจะงดรับหุ่นแล้ว ขอให้จบที่หุ่นที่ 13 ซึ่งเกี่ยวกับการเสียชีวิตวันที่ 13 ตอนอายุ 31 ให้จบที่เลข 1 และ 3คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
หากย้อนกลับไป เส้นทางการเป็นนักร้องของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ไม่ได้มาแค่โชคช่วย แต่เป็นเพราะพรสวรรค์ที่มีพนร้อมพรแสวงที่มุมานะจนได้เป็นขวัญใจแฟนเพลงกับฉายา “ราชินีลูกทุ่ง”
โดย “พุ่มพวง ดวงจันทร์” มีชื่อเดิมว่า “รำพึง จิตรหาญ” เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ที่จังหวัดชัยนาท แต่มาเติบโตที่สุพรรณบุรี ชื่นชอบการร้องเพลงและเดินสายประกวดตั้งแต่เด็กๆ ใช้ชื่อ “น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย” ในวัยเด็กค่อนข้างต่อสู้ชีวิต ด้วยความที่อยากให้น้องๆ ได้เล่าเรียน ตัวเองเรียนไม่จบแม้แต่ชั้น ป.2 ก็ออกมาช่วยครอบครัวหาของขาย
แต่ด้วยความที่มีความสามารถร้อง เต้น วันนึงโชคชะตานำพาให้กลายมาเป็นนักร้องชื่อดัง ได้สมญานาม “ราชินีลูกทุ่ง” มีเพลงสร้างชื่อมากมาย อาทิ ‘ส้มตำ , หนูไม่รู้ , กระแซะเข้ามาซิ , ผู้ชายในฝัน , นัดพบหน้าอำเภอ , คนดังลืมหลังควาย , อื้อฮื้อ ! หล่อจัง ฯลฯ และยังมีผลงานทางการแสดงอีกมากมาย ก่อนจะเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2535 ในวัย 31 ปี ด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) ถ้ามีชีวิตอยู่ปัจจุบันจะอายุ 62 ปี
รำลึก 31 ปี “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ครอบครัวเปลี่ยนชุดหุ่น เตรียมจัดงาน 9 วัน 9 คืน
“เพชร” ลูกชาย “พุ่มพวง ดวงจันทร์” โพสต์ถึงแม่จากไป 31 ปี รักและคิดถึงมาก
เธอได้รับรางวัลมากมายมาการันความสามารถและความดัง อาทิ รางวัลเสาอากาศทองคำทองคำ เพลง “อกสาวเหนือสะอื้น” (2521) , รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 1 เพลง “สาวนาสั่งแฟน” (2532) , รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 2 เพลง “สยามเมืองยิ้ม” (2534) , ยกย่องเชิดชูเกียรติ เป็น “ปริยศิลปิน” ศิลปินอันเป็นที่รักยิ่งของประชาชน ปี 2552
ด้านชีวิตครอบครัว “พุ่มพวง” ได้จดทะเบียนสมรสอดีตพระเอกภาพยนตร์ “ไกรสร แสงอนันต์” มีลูกชายด้วยกัน 1 คน คือ “เพชร – ภัควรรธน์ ลีละเมฆินทร์”
โดยเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ “พุ่มพวง” เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ “จันทร์กระพริบ” ว่า “ตอนเด็กๆ ครอบครัวเป็นชาวบ้าน มีพี่น้องทั้งหมด 12 คน ตนเองเป็นคนที่ 5 เป็นคนที่ชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็กๆ ก็จะไปร้องเพลงตามหมู่บ้านก็จะได้เงินมาวันละ 10 กว่าบาทมาช่วยครอบครัว จนกระทั่งโชคดีมีวงดนตรีของ “ไวพจน์ เพชรสุพรรณ” ไปเล่นงานประจำปีที่สุพรรณบุรี มีผู้ใหญ่บ้านเขียนจดหมายขึ้นไปว่าฝากเด็กคนนี้ร้องเพลงหน่อย ก็เลยได้ขึ้นไปร้องเพลง ได้เงินรางวัลมา 80 บาท ก็ดีใจว่าที่บ้านจะได้ซื้อไข่ได้หลายใบ สักพักก็ได้ไปอยู่ในวง แรกๆ ก็ไม่ได้เป็นนักร้อง ไปช่วยเก็บของ ซื้อน้ำให้หางเครื่องรุ่นพี่ ก็ทำทุกอย่างเท่าที่ช่วยได้ จนวันนึงหางเครื่องสายเล็กขาด ก็เลยขอไปเขาเต้น บังเอิญพ่อไวพจน์มาเห็นให้เงินมา 80 บาท ตั้งแต่วันนั้นมาก็ได้เต้นมาเรื่อยๆ ชีวิตเริ่มต้นมาจากหางเครื่อง จนในที่สุดดวงก็เข้าข้างก็ได้ร้องเพลง พ่อไวพจน์แต่งเพลงให้ร้องแล้วก็เริ่มดัง
ซึ่งเคยออกมาตั้งวงเอง แต่ยังดังไม่พอเลยต้องแยกวงเราเองก็กลับบ้าน จับพลัดจับผลูได้มาอัดเสียงในช่วงปี 2522-2523 ได้มาเจอ ‘อาจารย์มนต์ เมืองเหนือ’ แนะนำให้เปลี่ยนชื่อเดิมเป็น ‘พุ่มพวง ดวงจันทร์’ และโด่งดังจริงๆ ในปี 2526 – 2529 ได้เพลง ‘กระแซะเข้ามาซิ’ เปลี่ยนชีวิต แล้วก็ได้ทำอัลบั้ม ‘ตั๊กแตนผูกโบว์’ แต่ยังไม่ทันขาย ไปถ่ายมิวสิควิดีโอแต่ปรากฎว่าตั้งท้อง ตอนนั้นอยู่อเมริกา เพื่อนก็บอกว่าให้อยู่ที่นั่นเป็นห่วงถ้ากลับมาเมืองไทยแฟนเพลงจะรับไม่ได้ คลอดที่นั่นลูกได้สัญชาติด้วย แล้วกลับมาคนก็อาจจะไม่รู้ด้วยว่ามีลูก เราก็บอกว่าไม่จำเป็น เพราะมาถึงจุดนี้ได้เพราะทุกคนศรัทธาในความสามารถ การแต่งงานแล้วสักวันแล้วต้องมีลูก การที่แฟนเพลงรับได้เรื่องมีครอบครัว การมีลูกไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ปรากฎว่าไปเดินสายต่างจังหวัดคนก็มาดูมากมาย บอกว่าจะมาดูท้องพุ่มพวง
จากนั้นก็หยุดไป เพราะเพลง ‘ตั๊กแตนผูกโบว์’ ก็ไม่ประสบความสำเร็จมาเท่าไหร่ หลังจากคลอดลูกก็ได้คุยกับบริษัท แต่ก็เสียใจที่โดนปฎิเสธให้วางมือเพราะมีครอบครัวแล้ว ก็น้ำตาตก ก็เลยตัดสินใจทำเอง โทรไปหา ‘ครูลพ บุรีรัตน์’ ที่แต่งเพลงให้ก็เลยลองดู อาจารย์ก็ถามกลับมาว่าจะไม่มีปัญหาเหรอ เราก็ตอบคำเดียว หนูไม่รู้ๆ จนกลายเป็นเพลง ‘หนูไม่รู้’ ที่โด่งดัง”
ขอบคุณภาพจาก FB ไกรสร แสงอนันต์ /Petch Poompuang (Patrick Lee) /โอ่ง สลักจิต แฟนเพจ